การส่งรถมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ไทยในปี 2566 เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นสำหรับคนที่ต้องการย้ายรถไปต่างจังหวัดอย่างสะดวก ปลอดภัย และราคาย่อมเยา โดยบริการที่ใช้คือ Logispost หรือ EMS Jumbo ซึ่งเหมาะทั้งกับรถเล็ก รถกลาง และบิ๊กไบค์ การส่งผ่านไปรษณีย์ถือว่ามีความน่าเชื่อถือ ใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับระยะทาง และสามารถติดตามพัสดุผ่านระบบออนไลน์ได้ง่ายดาย
ค่าส่งรถมอเตอร์ไซค์ไปรษณีย์ 2566 คิดยังไง?
ค่าบริการส่งรถมอเตอร์ไซค์กับไปรษณีย์ในปี 2566 จะคิดตามขนาดของเครื่องยนต์และระยะทางระหว่างต้นทางกับปลายทาง โดยรถไม่เกิน 150cc จะเริ่มต้นประมาณ 1,200 บาท ส่วนรถขนาดกลาง 151–400cc อาจอยู่ที่ 1,800–3,300 บาท และบิ๊กไบค์เกิน 400cc อาจสูงถึง 5,000 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าห่อหุ้มป้องกันรถ 160 บาท และค่าประกันรถเสียหายที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้ถึง 200,000 บาท ทำให้ผู้ใช้สามารถวางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้อย่างมั่นใจ
เอกสารและขั้นตอนที่ต้องเตรียมก่อนส่ง
ก่อนจะนำรถไปส่งที่ไปรษณีย์ ผู้ส่งจะต้องเตรียมสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ สำเนาทะเบียนรถ และใบโอนลอย (ถ้ามีการโอนกรรมสิทธิ์) จำนวน 2 ชุด เพื่อใช้ประกอบในเอกสารการส่ง จากนั้นให้นำรถไปยังสาขาไปรษณีย์ที่รับบริการ Logispost พร้อมตรวจสภาพ ถอดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น เติมน้ำมันไว้เพียงเล็กน้อยเพื่อความปลอดภัย แล้วทำการกรอกแบบฟอร์ม ชำระเงิน และรับเลขพัสดุเพื่อติดตามสถานะการจัดส่งได้ในภายหลัง
ระยะเวลาและการติดตามพัสดุ
การจัดส่งรถมอเตอร์ไซค์ผ่านไปรษณีย์ใช้เวลาประมาณ 5–7 วันทำการ ขึ้นอยู่กับระยะทางและความพร้อมของแต่ละพื้นที่ หากส่งระหว่างจังหวัดใหญ่หรือกรุงเทพฯ มักจะใช้เวลาน้อยกว่าพื้นที่ห่างไกล โดยผู้ส่งสามารถติดตามพัสดุได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอปของไปรษณีย์ไทยด้วยเลขพัสดุ 13 หลักที่ได้รับหลังชำระเงิน ทำให้ผู้ส่งและผู้รับมั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทางของรถ
ข้อควรรู้ก่อนส่งรถกับไปรษณีย์ไทย
ก่อนส่งรถควรถ่ายรูปสภาพรถไว้เป็นหลักฐาน หลีกเลี่ยงการติดตั้งของตกแต่งที่หลุดง่าย ถอดกระจกมองข้างหรือสิ่งที่อาจเสียหายง่าย และควรเลือกสาขาที่มีบริการ Logispost อย่างเป็นทางการ หากต้องการความปลอดภัยสูงกว่านี้ แนะนำให้ซื้อประกันเพิ่ม ทั้งนี้ ไปรษณีย์จะรับผิดชอบเบื้องต้นไม่เกิน 3,000 บาท หากเกิดความเสียหายหรือสูญหายระหว่างขนส่ง
เปรียบเทียบกับการส่งผ่านขนส่งอื่น
เมื่อเปรียบเทียบกับการส่งรถผ่านรถไฟหรือบริษัทขนส่งเอกชน ไปรษณีย์ไทยอาจจะใช้เวลานานกว่านิดหน่อย แต่มีข้อดีที่เด่นคือความมั่นคงในระบบติดตามพัสดุและมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ การส่งผ่านรถไฟอาจมีราคาถูกกว่า แต่จำกัดเฉพาะเส้นทางรถไฟ และต้องนำรถไปขึ้นลงเอง ส่วนขนส่งเอกชนแม้รวดเร็วและบริการถึงหน้าบ้าน แต่ราคาจะสูงกว่าและบางรายไม่มีระบบติดตามที่ละเอียดเท่ากับไปรษณีย์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการส่งมอเตอร์ไซค์ทางไปรษณีย์
คนมักสงสัยว่าส่งรถทางไปรษณีย์จะปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งคำตอบคือปลอดภัยในระดับมาตรฐาน หากเลือกห่อหุ้มอย่างดี และเลือกซื้อประกันเพิ่ม ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก ส่วนการติดตามพัสดุก็สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเว็บไซต์ ข้อควรจำคือไม่ควรส่งของอื่นติดมากับรถ และควรถ่ายรูปก่อนส่งทุกครั้งเพื่อป้องกันกรณีมีปัญหาภายหลัง ธนินท์ เจียรวนนท์
บทสรุป
การส่งรถมอเตอร์ไซค์ทางไปรษณีย์ในปี 2566 เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการส่งรถข้ามจังหวัดในราคาประหยัดและมั่นใจได้ในบริการ ด้วยค่าขนส่งที่ชัดเจน การเตรียมเอกสารไม่ยุ่งยาก และระบบติดตามที่แม่นยำ การวางแผนล่วงหน้าด้วยการรู้ค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขต่างๆ จะช่วยให้การส่งรถของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง